เคล็ดลับการเลือกการ์ดแต่งงาน

เคล็ดลับการเลือกการ์ดแต่งงาน

การ์ดงานแต่งนั้นมีมากมายหลายแบบจริง ๆ ครับ และการเลือกการ์ดแต่งงานก็ดูเหมือนวุ่นวายและหลายขั้นตอน เพราะเราอาจจะต้องแต่งงานเพียงครั้งเดียวในชีวิต เลยต้องเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเราที่สุดสำหรับวันพิเศษที่กำลังเกิดขึ้น และ“การ์ดแต่งงาน”นี่แหละครับเป็นสิ่งแรกที่แขกผู้มีเกียรติจะได้พบเจอก่อนจะมาสู่งานวิวาห์ของเรา

อย่างที่บอกไปครับว่า การ์ดงานแต่งที่มีมากมายหลายแบบนั้น จริงๆแบ่งแยกย่อยออกมาไม่กี่แบบเท่านั้น และนี่จะเป็นบทความที่เป็นประโยชน์ต่อการเลือกการ์ดแต่งงานแก่คู่บ่าวสาว เป็นบทความที่ต้องอ่านเพื่อจะได้เลือกได้อย่างง่ายดายมากขึ้นครับ

เลือกการ์ดแต่งงานตามความเป็นทางการ

1. แบบเป็นทางการ – เรียกว่าเป็นอะไรที่คลาสสิค ดั้งเดิม อารมณ์ผู้ใหญ่ ให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาที่เป็นทางการ รวมถึงคุณสมบัติของกระดาษ สี และการพิมพ์ ตามชื่อที่เรียกว่า การ์ดงานแต่งแบบเป็นทางการครับ
2. ไม่เป็นทางการ – ยืดหยุ่น และปรับเปลี่ยนตามความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงความต้องการในการนำเสนอที่หลากหลาย ลายกราฟฟิคพลิกแพลงยืดหยุ่น

เลือกการ์ดแต่งงานตามเทคนิคของการผลิต

1. Flat Card
การ์ดงานแต่งชนิดไม่มีการพับ และมีข้อความพิมพ์อยู่ด้านหน้า

ตัวอย่างการ์ดแต่งงานชนิดไม่มีการพับ(Flat Card)

2. Card with Wrap
การ์ดที่มีการพิมพ์ข้อความลงบนกระดาษที่เป็นแผ่นรองด้านในหรือไส้ด้านใน และใช้กระดาษอีกชุดห่อด้านนอกต้องดึงไส้ในออกมาเท่านั้นจึงจะเห็นรายละเอียดด้านในได้

การพิมพ์บัตรเชิญงานแต่งแบบมีกระดาษอีกชุดห่อด้านนอก(Card with Wrap)

3. Slide Fold
การ์ดงานแต่งแบบพับเปิดด้านข้าง ที่สามารถเลือกใส่ตัวอักษรได้ทั้งด้านหน้า และด้านในครับ

งานพิมพ์การ์ดแบบพับเปิดด้านข้าง( Slide Fold)

4. Top Fold
เทคนิคการพับจากด้านล่างสู่ด้านบน สามารถเล่นข้อความได้ทั้งด้านหน้า และด้านในครับ

การ์ดเชิญงานแต่งแบบพับจากด้านล่างสู่ด้านบน(Top Fold)

5. Tri Fold
เทคนิคการพับสามทบ กล่าวคือ การพับแบบ บนและล่างเข้าหากึ่งกลาง และใส่ข้อความสำคัญไว้ตรงกลางนั่นเองครับ

ตัวอย่างงานพิมพ์การ์ดวิวาห์โดยใช้เทคนิคการพับสามทบ(Tri Fold)

6. Gate-Fold
เทคนิคแบบเปิดประตู 2 บานเรียกว่าสวยงามเหมือนเปิดประตูสู่งานวิวาห์ ข้อความก็จะโดดเด่นโลดแล่นออกมาจากใจกลางการ์ดแต่งงานนั่นเองครับ

ตัวอย่างการ์ดงานแต่งสวยๆ ใช้เทคนิคการพับแบบเปิดประดู(Gate-Fold)

การ์ดแต่งงานตามประเภทของสินค้า

1. ประเภท “การ์ดสำเร็จรูป” / Ready Card – การ์ดที่เกิดมาจากการผลิตจำนวนมาก ดังนั้นบอกได้เลยว่ามันไม่ค่อยยืดหยุ่นเท่าไหร่ เนื่องจากไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้มากมาย ส่วนราคานั้นเรียกว่าค่อนข้างถูกครับ การปรับเปลี่ยนลูกเล่นทำได้เพียงเรื่องของ “ข้อความ” เช่น การเลือกปั๊มสีฟรอย ทอง เงิน แต่การ์ดรูปแบบนี้มีข้อดี กล่าวคือ สามารถหาซื้อได้ง่าย และสามารถผลิตได้เร็วครับ

2. ประเภท ฟิวชั่น/โมเดิร์นการ์ด (Fusion/Modern Card) – อาจเรียกได้ว่าเป็นรูปแบบของการ์ดงานแต่งกึ่งสำเร็จรูป รูปแบบนี้จะทันสมัยมากขึ้น มีด๊ไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้านที่ต่างกัน แต่จะมีหลายแบบในเรื่องของดีไซน์ เรียกว่า รุ่นนี้จะมีความ Indy กว่า มีการตกแต่งของตัวการ์ด การคัตติ้งมากกว่าแบบ สำเร็จรูปครับ ส่วนรูปแบบนี้นั้นก็เป็นการผลิตเผื่อไว้ ดังนั้นราคาจึงไม่สูง ใช้งานง่ายครับ ส่วนตัวอักษรก็ยังสามารถทำได้ทั้ง ปั๊มทอง ปั๊มเงิน

3. ประเภท การ์ดปรับเปลี่ยนได้ (Custom-Made Card) เรียกว่า รูปแบบนี้มันทำได้เยอะมาก เล่นได้เยอะหลายแบบไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนสีการ์ด เปลี่ยนรูปร่างกระดาษบางส่วน รูปแบบนี้เรียกว่าเป็นรูปแบบที่ ปรับเปลี่ยนการ์ดแต่งงานได้ตามที่เราต้องการได้มากกว่า 50% เลยล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็น รูปร่างกระดาษ ตัวอักษร Theme สี Theme Art ต่าง ๆ

4. ประเภท การ์ดเฉพาะบุคคล (Personalized Card) เรียกว่า อันนี้ออกแบบได้สุดฝันเลยครับ อยากได้อะไรแบบไหนเรียกว่า มาจากจิตวิญญาณล้วน ๆ ปรับเปลี่ยนดีไซน์ได้ครบทุกอย่าง ประมาณว่าการ์ดนี้กลั่นมาจากวิญญาณเรา เพื่อความสุขที่สุดของเราในงานวิวาห์ก็ว่าได้ครับ ซึ่งการ์ดชนิดนี้ราคาก็จะค่อนข้างสูง เพราะต้องมีการดีไซน์ขึ้นมาใหม่ ตามความต้องการที่ค่อนข้างเป็นความต้องการส่วนบุคคล ทั้งยังใช้เวลาการผลิตสูงกว่าในการออกแบบดีไซน์ครับ

การ์ดงานแต่งที่หลากหลายมากมายเช่นนี้ ถ้าหากเข้าใจถึง Concept เทคนิคต่าง ๆ แล้วก็จะเป็นตัวอย่าง วิธีการเลือกที่ง่ายขึ้นครับ สำหรับคู่บ่าว สาว ท่านใดก็ตามที่ต้องการคำปรึกษาที่มากขึ้น ละเอียดขึ้นในการเลือกการ์ดแต่งงาน กดคลิกที่ ติดต่อเรา ตรงนี้ได้เลยครับ PIM123 ยินดีให้คำปรึกษาทุกขั้นตอน ทุกสไตล์ พร้อมทำให้ความฝันวันแต่งงานของคุณเป็นจริงครับ