ทำความรู้จักกับระบบงานพิมพ์ยุคปัจจุบัน เลือกพิมพ์แบบไหนให้ได้งานตรงใจคุณ
articles“งานพิมพ์” นับเป็นสื่อแสดงเนื้อหาที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มาอย่างยาวนาน แม้ว่าในปัจจุบันนี้จะมีสื่อในรูปแบบใหม่อย่างสื่อออนไลน์หรือสื่อดิจิตอลเข้ามาสร้างความสะดวกสบายให้อ่านเนื้อหากันได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงมีอิทธิพลต่อชีวิตเราค่อนข้างมาก ซึ่งเห็นได้จากประเภทสื่อสิ่งพิมพ์มากมายที่เรานิยมใช้งานอยู่บ่อยครั้ง เช่น นามบัตร ใบปลิว แผ่นพับ สมุด หนังสือ ปฏิทิน การ์ดเชิญตามวาระสำคัญ เป็นต้น
เนื่องในโอกาสที่ร้านพิมพ์ PIM123 ได้รับใช้ให้บริการทุกท่านมาอย่างยาวนาน จึงขอนำสาระน่ารู้มาเผยแพร่ให้ได้ทราบว่าในยุคปัจจุบันนี้มีระบบการพิมพ์ประเภทใดบ้าง และการพิมพ์แต่ละประเภทนั้นมีกระบวนการทำงาน ตลอดจนข้อดีและข้อเสียอย่างไร ให้ท่านนำข้อมูลไปประกอบการพิจารณา เพื่อเลือกระบบที่ตรงความต้องการของท่านมากที่สุด ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ท่านได้งานพิมพ์คุณภาพดี สวยงามตรงใจท่านแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นด้วยเช่นกัน
ระบบพิมพ์ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
การพิมพ์ Inkjet
เป็นงานพิมพ์ที่ใช้เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Inkjet) โดยกระบวนการทำงานหลักคือการพ่นหมึกออกมาเป็นหยดเล็กๆ ลงบนกระดาษ เพื่อสั่งพิมพ์ตัวเครื่องจะคำนวณตำแหน่งจุดของภาพรวม และพ่นสีหมึกที่ประมวลผลไว้อย่างแม่นยำตามรูปแบบไฟล์งานที่ใส่เข้าไป ทำให้ภาพออกมาชัดเจ่นและคมชัด จุดเด่นของ Inkjet คือสามารถสั่งพิมพ์ได้ทั้งงานขนาดเล็กและงานขนาดใหญ่ ไม่จำกัดขนาดบนดระดาษ เหมาะสำหรับนำมาใช้ทั้งงานภายในและงานภายนอกอาคาร เช่นป้าย แบรนด์เนอร์ โปสเตอร์ ป้ายโฆษณา บิลบอร์ด ตลอดจนงานพิมพ์ตกแต่งตามอีเว้นท์ต่างๆ
การพิมพ์ Offset (ออฟเซ็ต)
เป็นงานพิมพ์ที่สามารถพิมพ์ลงบนกระดาษหรือวัสดุอื่นๆ ได้หลากหลาย เหมาะสำหรับการพิมพ์ครั้งละมากๆ ต้องการความระเอียดสูงรวมถึงเพิ่มลูกเล่นพิเศษ เช่น เคลือบยูวี เคลือบ PVC เคลือบด้าน เคลือบมัน Di-Cut เป็นต้น สำหรับงานพิมพ์รูปแบบนี้หากยิ่งพิมพ์มากก็จะยิ่งประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งทั่วไปแล้วมักจะพิมพ์ 1,000 ใบขึ้นไป สำหรับงานที่มักใช้ระบบออฟเซ็ต ได้แก่ นามบัตร, ใบปลิว, แผ่นพับ, โปสเตอร์, โปสการ์ด, บัตรเชิญ, แฟ้ม ฯลฯ ส่วนข้อดีของระบบพิมพ์ประเภทนี้คือภาพมีความละเอียดสวยงาม หากยิ่งสั่งพิมพ์จำนวนมากก็จะยิ่งคุ้มค่าและรวดเร็ว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดคือหากพิมพ์จำนวนน้อยจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าระบบพิมพ์ ดิจิตอล
การพิมพ์แบบ ดิจิตอล ออฟเซ็ต (Digital Offset)
เป็นระบบงานพิมพ์ที่เหมาะกับการพิมพ์จำนวนน้อยและใช้กระดาษมาตรฐานที่ไม่ใหญ่เกินกว่าขนาด A3 สามารถพิมพ์ตั้งแต่งาน 1 แผ่นได้เลย เหมือนสั่งพิมพ์จากคอมพิวเตอร์ทั่วไป แต่หากพิมพ์ครั้งละจำนวนมาก เช่น 1,000 แผ่นขึ้นไป ความคุ้มค่าจะไม่ดีเท่าระบบออฟเซ็ต ในทุกวันนี้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบดิจิตอลได้พัฒนาความคมชัดขึ้นจนมีคุณภาพใกล้เคียงกับระบบออฟเซ็ต คุณภาพงานจึงไม่ต่างกันมากนัก หากท่านต้องการความรวดเร็วระบบดิจิตอลย่อมตอบโจทย์ได้ดีที่สุดแน่นอน สำหรับงานพิมพ์ที่นิยมใช้กับ Digital Offset ได้แก่ เอกสาร, รายงาน, ปริญญานิพนธ์, วิทยานิพนธ์, นามบัตร , ใบปลิว เป็นต้น
จากข้อมูลที่แนะนำไปในข้างต้น คงทำให้ท่านทราบข้อดีและข้อเสียของระบบงานพิมพ์ประเภทต่างๆ ไปบ้างแล้ว ซึ่งท่านต้องพิจารณาว่างานที่ท่านต้องการนั้น เหมาะกับระบบพิมพ์แบบใดมากที่สุด เมื่อท่านตัดสินใจใช้ระบบงานพิมพ์อย่างถูกต้อง ก็จะส่งผลให้ได้งานที่มีคุณภาพสวยโดนใจท่าน และช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นด้วย